
ประเทศจีน (China) ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักเรียนไทยและต่างชาติที่ต้องการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ด้วยระบบการศึกษาที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว มหาวิทยาลัยติดอันดับโลก และมีทั้งหลักสูตรภาษาจีนและภาษาอังกฤษให้เลือกมากมาย
📌 ระดับการศึกษาระดับอุดมศึกษาของจีน (Higher Education Levels in China) แบ่งออกเป็นหลักๆ ดังนี้
✔️ ปริญญาตรี (Bachelor’s Degree) : ใช้ระยะเวลาเรียน 4-6 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาวิชา โดยเปิดสอนหลากหลายสาขาทั้งสายวิทย์ สายศิลป์ และสายวิชาชีพ นักศึกษาที่จบ ม.6 จากไทยสามารถสมัครได้ หากมีผลสอบภาษาจีน HSK หรือ ภาษาอังกฤษ (IELTS/TOEFL)
✔️ ปริญญาโท (Master’s Degree) : ใช้ระยะเวลาเรียน 2-3 ปี (ขึ้นกับสาขาวิชา)
✔️ ปริญญาเอก (Doctoral Degree) : ใช้ระยะเวลาเรียน 3–5 ปี เน้นการทำวิจัย
ภาษาการเรียนการสอน มีทั้ง ภาคภาษาจีน (Chinese-taught Programs) และ ภาคภาษาอังกฤษ (English-taught Programs) โดยหลักสูตรภาษาอังกฤษครอบคลุมหลายสาขา เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ ดนตรี และวิทยาศาสตร์ นักศึกษาที่ไม่มีผลสอบภาษาจีน HSK บางมหาวิทยาลัยมี หลักสูตรเตรียมภาษาจีน (Chinese Language Preparatory Program) ให้เรียนก่อน
📌 ประเภทของมหาวิทยาลัยในจีน (Types of Universities in China)
ในประเทศจีน มีมหาวิทยาลัยทั้งหมดมากกว่า 3,000 แห่ง โดยแบ่งออกเป็นหลายประเภท และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง รัฐบาลมณฑล และเอกชน
มหาวิทยาลัยที่จีน มีหลักสูตรที่เปิดสอนเน้นไปที่ หลักสูตรภาษาจีน (Chinese-taught program) เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาจีน HSK 4 180 คะแนนขึ้นไป หรือพร้อมเรียนภาษาก่อนเข้าหลักสูตร ส่วนหลักสูตรนานาชาติ/ภาษาอังกฤษ (English-taught program) เหมาะกับนักเรียนต่างชาติ ที่คะแนน IELTS 5.5 -6.0 ขึ้นไป เช่น สาขา Business, Medicine, Engineering, International Relations
✔️ มหาวิทยาลัยของรัฐบาลจีน (China Public Universities) : มีประมาณ 2,740 แห่ง ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เป็นมหาวิทยาลัยหลัก เช่น Tsinghua, Peking, Fudan นอกจากนี้ยังมีการแบ่งมหาวิทยาลัยตามโครงการสำคัญของรัฐบาลจีน คือ
🈴 Project 211 พัฒนามหาวิทยาลัยระดับสูง 100+ แห่ง
🈴 Project 985 ผลักดันมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เช่น Tsinghua, Peking
🈴 Double First Class โครงการล่าสุด เน้นมหาวิทยาลัยและสาขาวิชาให้ติดอันดับโลก
✔️ มหาวิทยาลัยเอกชนจีน (China Private Universities) : มีประมาณ 270 แห่ง มีค่าเทอมสูงกว่า มักเน้นการสอนเฉพาะทาง
✔️ มหาวิทยาลัยนานาชาติ หรือมีหลักสูตรอินเตอร์ (China International Universities) : มีมากกว่า 1,000 หลักสูตรในมหาวิทยาลัย 200+ แห่ง เช่น Zhejiang University, Shanghai Jiao Tong University มีหลักสูตรอินเตอร์ครบทุกระดับ
📌 ข้อดีของการเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่จีน (What are the advantages of studying at university in China?)
✔️ มหาวิทยาลัยคุณภาพสูง ติดอันดับโลก : จีนมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่อยู่ใน QS World University Rankings เช่น Tsinghua University (Top 20 ของโลก), Peking University, Fudan University, Zhejiang University มีมหาวิทยาลัยในโครงการ 985 และ 211 มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น วิศวกรรม แพทย์ ธุรกิจ และไอที
✔️ มีหลักสูตรภาษาอังกฤษ (English-taught Programs) : เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ไม่รู้ภาษาจีน เปิดสอนสาขาหลัก เช่น Business Administration, Medicine (MBBS), Computer Science, Engineering , International Relations เป็นต้น
✔️ ค่าเรียนและค่าครองชีพไม่แพง : ค่าเทอมต่อปี 50,000–120,000 บาท (บางหลักสูตรแพทย์อาจสูงขึ้น) ค่าหอพักนักศึกษา 10,000–30,000 บาท/ปี และ ค่าครองชีพรวม ประมาณ 5,000–10,000 บาท/เดือน เมื่อเทียบกับยุโรป อเมริกา หรือออสเตรเลีย ถือว่าถูกกว่ามาก
✔️ มีทุนการศึกษาให้หลากหลาย :
🈴 ทุนรัฐบาลจีน (CSC – Chinese Government Scholarship) : ครอบคลุมค่าเรียน ค่าครองชีพ และที่พัก มีให้ทั้งระดับ ป.ตรี, โท, เอก
🈴 ทุนจากมหาวิทยาลัย (Unversity Scholarship) : เช่น ทุนของ Peking University, Shanghai Jiao Tong, Tsinghua University เป็นส่วนลดค่าเรียนบางส่วน หรือ เต็มจำนวน
🈴 ทุนระดับเมือง หรือมณฑล เช่น Beijing Government Scholarship, Jiangsu Scholarship
✔️ โอกาสเรียนรู้วัฒนธรรม และภาษาจีน : นักเรียนจะได้ฝึกใช้ ภาษาจีนกลาง (Mandarin) ในชีวิตประจำวัน มีโอกาสเรียนภาษาจีนควบคู่กับหลักสูตรหลักเรียนรู้วัฒนธรรมจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
✔️ ประเทศมหาอำนาจที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก : จีนเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ นักเรียนที่จบจากมหาวิทยาลัยจีนมีโอกาสสูงในการทำงานในจีน ทำงานกับบริษัทจีนในประเทศไทย หรือบริษัทที่มีความร่วมมือกับจีน
✔️ สภาพแวดล้อมนานาชาติ : จีนมีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 500,000 คนต่อปี มหาวิทยาลัยหลายแห่งมี “International College” แยกต่างหาก รองรับนักศึกษาต่างชาติ
📌 ปีการศึกษาของมหาวิทยาลัยจีน (China University Academic Year) แบ่งเป็น
✔️ เทอมที่ 1. (Fall Semester) เดือนกันยายน – มกราคม (เปิดรับสมัครช่วงเดือน ม.ค. – มิ.ย.) เป็นรอบหลักที่เปิดสอนเกือบทุกสาขา
✔️ เทอมที่ 2. (Spring Semester) เดือนกุมภาพันธ์ – กรกฎาคม (เปิดรับสมัครช่วงเดือน ก.ย. – พ.ย. ปีก่อนหน้า) เปิดเฉพาะบางหลักสูตร
📌 ตัวอย่างแพลนการเรียนต่อมหาวิทยาลัยจีน (Sample Plans for studying at China Universities)
✔ ปริญญาตรี ภาคภาษาจีน (Bachelor's Degree in Chinese-taught Programme) : รับจบ ม. 6 หรือเทียบเท่า (ไม่รับ GED)
⭐ ผลคะแนนภาษาจีนตามที่กำหนด ⇢️ ปริญญาตรี 4 ปี
⭐ ไม่มีผลคะแนนภาษาจีน ⇢️ หลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาจีน 1 ปี ⇢️ ปริญญาตรี 4 ปี
✔ ปริญญาโท ภาคภาษาจีน (Master's Degree in Chinese-taught Programme) : รับจบปริญญาตรี สาขาที่เกี่ยวข้อง
⭐ ผลคะแนนภาษาจีนตามที่กำหนด ⇢️ ปริญญาโท 3 ปี
⭐ ไม่มีผลคะแนนภาษาจีน ⇢️ หลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาจีน 1 ปี ⇢️ ปริญญาโท 3 ปี
✔ ปริญญาตรี ภาคภาษาอังกฤษ (Bachelor's Degree in English-taught Programme) : รับจบ ม. 6 หรือเทียบเท่า (ไม่รับ GED)
⭐ ผลคะแนนภาษาอังกฤษตามที่กำหนด ⇢️ ปริญญาโท 2 ปี
✔ ปริญญาโท ภาคภาษาอังกฤษ (Master's Degree in English-taught Programme) : รับจบปริญญาตรี สาขาที่เกี่ยวข้อง
⭐ ผลคะแนนภาษาอังกฤษตามที่กำหนด ⇢️ ปริญญาโท 2 ปี
📌 คุณสมบัติของนักเรียนไทยในการสมัครเรียนปริญญาตรี และปริญญาโท หลักสูตรภาษาจีน ที่จีน (Qualifications for Thai students applying for Bachelor's and Master's degree programs in Chinese-taught Programs in China)
✔️ สมัครเรียนปริญญาตรี จบการศึกษาในระดับ ม. 6 มีอายุประมาณ 18 – 25 ปี และมีผลสอบภาษาจีน HSK ระดับ 4 หรือ 5 ขึ้นไป (แล้วแต่สาขาและมหาวิทยาลัย)
✔️ สมัครเรียนปริญญาโท จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และมีอายุไม่เกิน 35 ปี (ขึ้นอยู่กับทุนหรือสถาบัน) และมีผลสอบภาษาจีน HSK ระดับ 5 หรือ 6 ขึ้นไป (แล้วแต่สาขาและมหาวิทยาลัย)
หมายเหตุสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานภาษาจีน สามารถเรียนคอร์สเตรียมภาษาจีน (Foundation/Chinse Language Course) 1 ปี เมื่อสอบผ่าน HSK ตามเกณฑ์แล้ว จึงสมัครเข้าหลักสูตรปริญญาในเทอมถัดไปได้
📌 คุณสมบัติของนักเรียนไทยในการสมัครเรียนปริญญาตรี และปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ ที่จีน (Qualifications for Thai students applying for Bachelor's and Master's degree programs in English-taught Programs in China)
✔️ สมัครเรียนปริญญาตรี จบการศึกษาในระดับ ม. 6 มีอายุประมาณ 18 – 25 ปี และผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS: 5.5–6.5 / TOEFL: 70–90 (แล้วแต่สาขาและมหาวิทยาลัย)
✔️ สมัครเรียนปริญญาโท จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และมีอายุไม่เกิน 35 ปี (ขึ้นอยู่กับทุนหรือสถาบัน) และมีผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS/TOEFL ตามที่กำหนด (แล้วแต่สาขาและมหาวิทยาลัย)
หมายเหตุสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ เนื่องจากที่มหาวิทยาลัยจีน ไม่มีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ดังนั้นผู้สมัครจะต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS/TOEFL ในการยื่นสมัครเท่านั้น
📌 เอกสารที่ใช้ในการสมัครเรียนหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาจีน ปริญญาตรี และ ปริญญาโท ที่จีน (Documents required for applying for Chinese Language Course, Bachelor's and Master's degrees in China)
✔️ สมัครหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาจีน รับจบ ม. 6 (ไม่รับ GED) และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป / ปริญญาตรี / ปริญญาโท
✔️ สมัครปริญญาตรี รับจบ ม. 6 (ไม่รับ GED) และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
✔️ สมัครปริญญาโท รับจบ ปริญญาตรี
✔️ พาสปอร์ต และรูปถ่าย
✔️ ค่าสมัคร และค่าดำเนินการ
✔️ ทรานสคริปส์ และวุฒิการศึกษา เป็นภาษาอังกฤษ และรับรองโดย กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล
✔️ สมัครปริญญาตรี/โท ภาคภาษาจีน มีผลคะแนนภาษาจีน HSK ตามที่กำหนด
✔️ สมัครปริญญาตรี/โท ภาคภาษาอังกฤษ มีผลคะแนนภาษาอังกฤษในการสมัคร เช่น IELTS/TOEFL
✔️ จดหมายแนะนำ (Recommendation Letters) 1–2 ฉบับ (สำหรับปริญญาโทและบางหลักสูตรปริญญาตรี)
✔️ Statement of Purpose (SOP) หรือ Motivation Letter
✔️ Resume / CV
✔️ ใบรับรองสุขภาพ (Medical Certificate )
✔️ ใบรับรองประวัติอาชญากรรม (Police Clearance Certificate)
✔️ หลักฐานการเงิน (Bank Statement) เพื่อแสดงว่ามีเงินเพียงพอ สำหรับค่าเล่าเรียน และค่าครองชีพ (สำหรับบางมหาวิทยาลัย)
📌 สนใจไปเรียนมหาวิทยาลัยที่จีน? เรามีบริการให้คำปรึกษา วางแผน แนะนำสถาบันการศึกษา ยื่นวีซ่า พร้อมดูแลตั้งแต่สมัครเรียน จนเรียนจบการศึกษา
📞 ติดต่อเรา : 091 164 2861
💬 | Chat คุยผ่านแชทเฟสบุ๊ค คลิกเลย : Education Seeds
👍 ติดตามข่าวสารดีๆ โปรโมชั่น
ทุนการศึกษาเรียนต่อต่างประเทศ คลิกเลย FB : Education Seeds